2538
บมจ. โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จดทะเบียนจัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2538 โดยเป็นการร่วมลงทุนของ บมจ. แลนด์แอนด์เฮ้าส์ และ บมจ. ควอลิตี้เฮ้าส์ บริษัทฯ เริ่มต้นเปิดดำเนินการที่สาขารังสิตในเดือนกันยายน 2539 เป็นแห่งแรก โดยใช้ชื่อทางการค้าว่า “โฮมโปร” (HomePro)
2544
บริษัทฯ ได้จดทะเบียนแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนในวันที่ 29 พฤษภาคม 2544 ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 150 ล้านบาท ต่อมาได้จดทะเบียนเป็นบริษัทรับอนุญาตในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันที่ 30 ตุลาคม 2544 โดยใช้ชื่อย่อหลักทรัพย์ว่า “HMPRO”
2547
บริษัทฯ สร้างศูนย์กระจายสินค้าบนที่ดินที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทฯ ที่ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา และเริ่มดำเนินการในเดือนกันยายน 2547 พร้อมทั้งมีการขยายอาคารเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการขยายสาขาในอนาคต
2549
ในวันที่ 26 พฤษภาคม 2548 บริษัทฯ ได้จดทะเบียนจัดตั้งบริษัท มาร์เก็ต วิลเลจ จำกัด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อบริหารพื้นที่ให้เช่า พร้อมกับให้บริการทางด้านสาธารณูปโภค เริ่มต้นดำเนินการในไตรมาสแรก ปี 2549 ที่โครงการ “หัวหิน มาร์เก็ต วิลเลจ” (Hua-Hin Market Village)
และในปี 2549 บริษัทฯ ได้ถูกคัดเลือกให้เป็นหลักทรัพย์ในกลุ่ม SET100
2553
ในปี 2553 บริษัทฯ ได้รับคัดเลือกให้เป็นหลักทรัพย์ในกลุ่ม SET 50
และได้เปิดดำเนินการครบ 15 ปี มีสาขาทั้งสิ้น 40 แห่ง เป็นสาขาในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 19 แห่ง
ในต่างจังหวัด 21 แห่ง
2556
บริษัทฯ เริ่มต้นขยายธุรกิจใหม่เพื่อรองรับตลาดสินค้าวัสดุก่อสร้างและสินค้าเกี่ยวกับบ้าน โดยได้จดทะเบียนจัดตั้งบริษัท เมกา โฮม เซ็นเตอร์ จำกัด ขึ้นเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2555 เปิดศูนย์รวมสินค้าเกี่ยวกับบ้านและวัสดุก่อสร้างครบวงจร จำหน่ายสินค้าในรูปแบบค้าส่งและค้าปลีกภายใต้ชื่อ “เมกา โฮม” (Mega Home) โดยมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นกลุ่มช่าง ผู้รับเหมา และเจ้าของโครงการ เปิดดำเนินการที่สาขารังสิตเป็นแห่งแรก ในปี 2556
และในวันที่ 4 กันยายน 2556 บริษัทฯ ได้จดทะเบียนจัดตั้ง บริษัท ดีซี เซอร์วิส เซ็นเตอร์ จำกัด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อบริหารจัดการคลังสินค้า และระบบโลจิสติกส์ของบริษัทฯ และบริษัทย่อย
2557
บริษัทฯ เริ่มต้นขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศเป็นครั้งแรก โดยจดทะเบียนจัดตั้ง Home Product Center (Malaysia) SDN. BHD. ขึ้นเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2554 เพื่อดำเนินธุรกิจค้าปลีกสินค้าเกี่ยวกับบ้านที่ประเทศมาเลเซีย และเปิดดำเนินการสาขาแรกที่ศูนย์การค้า ไอโอไอ ซิตี้มอลล์ (IOI City Mall) กรุงกัวลาลัมเปอร์ ในเดือนพฤศจิกายน 2557
2558
บริษัทฯ ได้รับคะแนนการประเมิน และรับรางวัลในระดับสากลและระดับประเทศ อาทิ
- ได้รับการประเมินให้อยู่ในดัชนี MSCI Global Sustainability Index โดย Morgan Stanley Capital International ที่ระดับ A
- ได้รับรางวัล SET Award 2015 รางวัลดีเด่น ด้านผลการดำเนินงาน (Best Company Performance)
- ผลประเมินการกำกับดูแลกิจการที่ดีอยู่ในระดับ 5 ดาว (ดีเยี่ยม) โดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD)
- ได้รับเลือกเป็น 1 ใน 100 บริษัทจดทะเบียนที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG 100) โดยสถาบันไทยพัฒน์
2559
บริษัทฯ เริ่มต้นนวัตกรรมแห่งการบริการ “Home Makeover” งานบริการปรับปรุงบ้านทั้งหลัง ที่มีทีมช่างผู้ชำนาญคอยดูแลตั้งแต่เริ่มจนจบงาน อีกทั้งยังช่วยควบคุมงบประมาณ และรับประกันคุณภาพ
นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้รับคะแนนการประเมิน และรับรางวัลในระดับสากลและระดับประเทศ อาทิ
- ได้รับการประเมินให้อยู่ในดัชนี MSCI Global Sustainability และ MSCI Global SRI Indexes โดย Morgan Stanley Capital International ที่ระดับ A
- ได้รับเลือกเป็น 1 ใน 100 บริษัทจดทะเบียนที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG 100) โดยสถาบันไทยพัฒน์ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2
- ผลการประเมินคุณภาพงานประชุมผู้ถือหุ้น 100 คะแนนเต็ม โดยสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทยต่อเนื่องเป็นปีที่ 8
- ได้รับคัดเลือกให้อยู่ใน FTSE4Good Emerging Index และ FTSE4Good ASEAN 5 Index ซึ่งเป็นดัชนีที่รวบรวม บริษัทจดทะเบียนที่ผ่านการประเมินคะแนนด้าน ESG
- ได้รับคัดเลือกให้อยู่ในรายชื่อ “หุ้นยั่งยืน” (THSI) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 พร้อมกับได้รับรางวัล SET Sustainability Awards 2016 ประเภท รางวัล Rising Star
2560
บริษัทฯ ได้ผ่านการรับรองให้เป็นสมาชิกแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริต หรือ CAC เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2560
2561
บริษัทฯ เปิดสาขาของโฮมโปรเพิ่ม 1 แห่งที่กัลปพฤกษ์ และเปิดโฮมโปรเอส 5 แห่งที่ สาขาพาซิโอ กาญจนาภิเษก สาขาบิ๊กซี บางนา สาขามาร์เก็ตเพลส นางลิ้นจี่ สาขาเสนาเฟสและสาขาเกตเวย์ แอท บางซื่อ โดยในการขยายการสาขาใน ปี 2561 เป็นการขยายในพื้นที่ที่มีศักยภาพที่ดี โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งยังคงมีกำลังซื้อจากกลุ่มลูกค้าในเขตพื้นที่อยู่อาศัยใหม่ที่เกิดขึ้น ทำให้ ณ สิ้นปี มีสาขาของโฮมโปรทั้งสิ้น 82 แห่ง และโฮมโปรเอส 8 แห่ง เมกาโฮม 12 แห่ง และโฮมโปรที่ประเทศมาเลเซีย 6 แห่ง
2562
บริษัทฯ เปิดสาขาโฮมโปรทั้งหมด 2 แห่ง ที่จรัญสนิทวงศ์และมุกดาหาร และโฮมโปรเอส 1 แห่งที่ สามย่าน มิตรทาวน์ และได้มีการเปิดสาขาเมกา โฮมทั้งหมด 2 แห่งที่ระยอง (บ้านฉาง) และบางนา-ตราด โดยการขยายสาขาในปี 2562 เป็นการขยายในพื้นที่ที่มีศักยภาพที่ดี โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตลอดจนเมืองที่อยู่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งยังคงมีกำลังซื้อจากกลุ่มลูกค้าในเขตพื้นที่อยู่อาศัยใหม่ที่เกิดขึ้น ทำให้ ณ สิ้นปี 2562 บริษัทฯ มีสาขาโฮมโปร 84 สาขาโฮมโปรเอส 9 สาขา เมกาโฮม 14 สาขา และโฮมโปรที่ประเทศมาเลเซีย 6 สาขา
2563
บริษัทฯ เปิดสาขาโฮมโปรทั้งหมด 2 แห่ง ที่รังสิตคลอง 4 ในรูปแบบของ “มาร์เก็ต วิลเลจ” (Market Village) และสาขาสุขสวัสดิ์ ทั้งนี้สำหรับการขยายการสาขาในปี 2563 เป็นไปอย่างระมัดระวัง เนื่องด้วยบริษัทได้รับผลกระทบจากการปิดสาขาช่วงไตรมาสที่ 2 จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) โดย ณ สิ้นปี 2563 บริษัทฯ มีสาขาโฮมโปร 86 สาขา โฮมโปรเอส 9 สาขา เมกาโฮม 14 สาขา และโฮมโปรที่ประเทศมาเลเซีย 6 สาขา นอกจากนี้คณะกรรมการบริษัทมีมติเพื่อให้ดำเนินการจัดตั้งบริษัท Home Product Center Vietnam Company Limited เพื่อประกอบธุรกิจค้าปลีกสินค้าเกี่ยวกับบ้านที่ประเทศเวียดนาม และบริษัทฯ มีแผนที่จะดำเนินการภายในปี 2564
2564
บริษัทฯ เปิดสาขาโฮมโปรทั้งหมด 2 แห่ง และได้เริ่มดำเนินกิจการในประเทศเวียดนาม บริษัทฯ เปิดสาขา ในกรุงเทพฯ ที่บางนา กม.1 ซึ่งเป็นโฮมโปรสาขาลำดับที่ 87 ในประเทศไทย และขยายธุรกิจในประเทศมาเลเซียเป็นสาขาลำดับที่ 7 ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ย่าน Damansara โดย ณ สิ้นปี 2564 บริษัทฯมีสาขาโฮมโปร 87 สาขาโฮมโปรเอส 6 สาขา เมกาโฮม 14 สาขา และโฮมโปรประเทศมาเลเซีย 7 สาขา และได้เริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศเวียดนามผ่านช่องทาง E-marketplace
2565
บริษัทฯ เปิดสาขาโฮมโปรทั้งหมด 2 แห่ง ซึ่งเป็นการเปิดทดแทนสาขาเดิม ปิดสาขาโฮมโปร 1 แห่ง และเปิดสาขาเมกาโฮม ทั้งหมด 4 แห่ง อีกทั้งบริษัทฯ ได้รวมการบริหารงานของเมกาโฮมและโฮมโปรเข้าเป็นส่วนเดียวกัน บริษัทฯ เปิดสาขาโฮมโปรฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ซึ่งเป็นการย้าย สถานที่จากสาขารังสิตเดิม และเปิดสาขาลาดกระบัง แทนโฮมโปรเอส สาขาเดอะพาซิโอ ลาดกระบัง โดยมาเปิดในพื้นที่ใหญ่ขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกสบายต่อลูกค้า รวมถึงบริษัทฯมีการปิดสาขาโฮมโปร 1 สาขา ที่เดอะมอลล์บางแค เนื่องจากสัญญาเช่าหมดอายุลง และบริษัทฯ มีแผน ที่จะเปิดสาขาใหม่ในบริเวณใกล้เคียงกัน รวมถึงบริษัทฯ ยังมีการเปิดสาขาเมกาโฮมที่พัทยา ฉะเชิงเทรา สุราษฎร์ธานี และขอนแก่น โดย ณ สิ้นปี 2565 บริษัทฯ มีสาขาโฮมโปร 87 สาขา โฮมโปรเอส 5 สาขา เมกาโฮม 18 สาขา และโฮมโปรประเทศมาเลเซีย 7 สาขา และมีการดำ เนินธุรกิจในประเทศเวียดนาม ผ่านช่องทาง E-marketplace
ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 บริษัทฯ ได้รวมการบริหารงานระหว่างเมกาโฮมและโฮมโปรเข้าเป็นส่วนเดียวกัน ภายใต้ชื่อ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) จากเดิมที่มีการแบ่งแยกการบริหารงานอย่างชัดเจน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารในด้าน ต่างๆ อาทิ การบริหารบุคลากร การบริหารสินค้าคงคลังและการควบคุมต้นทุนสินค้าให้เหมาะสม รวมถึงการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจและอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าในการซื้อสินค้าและบริการได้ทั้งระหว่างสาขาโฮมโปรและเมกาโฮมที่รวดเร็วและหลากหลายเพิ่มมากขึ้น
2566
บริษัทฯ เปิดสาขาโฮมโปรทั้งหมด 3 แห่ง โดยเป็นการเปิดทดแทนสาขาเดิมจำนวน 1 แห่ง และเปิดสาขาเมกาโฮมทั้งหมด 9 แห่ง
บริษัทฯ เปิดสาขาโฮมโปรซีคอน บางแค โดยเป็นการเปิดทดแทนสาขาโลตัส บางแค ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกัน อีกทั้งยังมีการเปิดสาขาโฮมโปรอีก 2 แห่ง ได้แก่ สาขาบางบัวทอง และสาขาภูเก็ต (เจ้าฟ้า) รวมถึงมีการเปิดสาขาเมกาโฮม ที่รัตนาธิเบศร์ บางพลี ติวานนท์ นครปฐม เชียงใหม่ บางแสน ปลวกแดง ทุ่งสง และ ภูเก็ต (เจ้าฟ้า) โดย ณ สิ้นปี 2566 บริษัทฯ มีสาขาโฮมโปร 89 สาขา โฮมโปรเอส 5 สาขา เมกาโฮม 27 สาขา โฮมโปรประเทศมาเลเซีย 7 สาขา และยังคงดำเนินธุรกิจในประเทศเวียดนาม ผ่านช่องทาง E-marketplace